ทุกคนมีโอกาสทำ “ประกันชีวิต” แค่ 2 วิ
คือ “วิสัยทัศน์” กับ “วิกฤต”
คุณจะเลือกทำตอน “วิ” ไหน?
.
ทำประกันด้วย “วิสัยทัศน์” แปลว่า
ใช้ดวงตาแห่งการคิดวิเคราะห์/ไตร่ตรอง
มองไปยังอนาคตแล้วเห็นว่า
ตัวคุณและคนที่คุณรักและห่วงใยจะ “เสี่ยง” ไม่ได้
หากเป็นโรคร้าย หรือจากไปก่อนวัยอันควร
“รายได้” จะหายไปตลอดกาล คนที่รักและห่วงใยจะเดือดร้อน
จึงทำ “ประกันชีวิต” ไว้เพื่อป้องปัญหาก่อนที่มันจะเกิด
.
ทำประกันด้วย “วิกฤต” แปลว่า
ตาเนื้อมองเห็นปัญหาอยู่ตรงหน้าแล้ว
เช่นไปตรวจร่างกายมา แล้วผลตรวจสุขภาพไม่สู้ดีนัก
ตรวจพบโรคร้ายเช่นมะเร็ง โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ฯลฯ
จึงคิดอยากทำประกันชีวิต ประกันสุขสุขภาพ
เมื่อเจอ “วิกฤต” จึงได้ตระหนักว่า “ประกัน” เป็นเรื่องสำคัญ
แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้ไปแล้ว
เพราะไม่มีบริษัทประกันชีวิตใดจะรับประกัน
ผู้ป่วยเป็นมะเร็ง หรือ เป็นโรคร้ายแล้ว
การซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพจึงไม่ได้ใช้แค่ “เงิน”
แต่ต้องใช้ “สุขภาพที่ดี” ในการซื้อด้วยนั่นเอง
คนที่คิดทำประกันตอนเจอ “วิกฤต” จึงไม่สามารถทำได้นั่นเอง
.
น้ำท่วมจึงค่อยมาสร้างเขื่อน ไม่ทันการณ์
เรือล่มจึงค่อยมาให้ว่ายน้ำ สายเกินแก้
เจ็บป่วยจึงคิดทำประกัน ก็สายเกินไปเช่นกัน
.
เมื่อคุณมีวิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง
คุณจะรู้ว่าต้องรีบทำ “ประกันชีวิต” ทันทีที่มีโอกาส
เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
.
ไม่อยากจากโลกนี้อย่าง “ไร้ค่า” (ตัว)
ท่านว่าให้ทำ “ประกันชีวิต” ไว้ ดีที่สุด
.
ทำประกันเร็วไป 5 ปี ยังดีกว่าทำช้าไปแค่ 5 นาที
คุณว่าจริงไหมครับ?