ภาพและบทความนี้มีลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย

ถ้ามีคนถือเงินสดๆ 1,000,000 บาท
มาขายคุณในราคา 30,000 บาทจริงๆ
คุณจะซื้อ “เงินสด” ก้อนนี้ไว้ไหม?
.
ที่สุดแห่งคุณค่าของประกันชีวิต
คือการใช้เงินก้อนเล็ก ซื้อ “เงินก้อนใหญ่"
คือการใช้เงินที่มี ซื้อ “เงินที่ยังไม่มี"
เป็นสิ่งที่ไม่มีสินค้าและบริการใดทำได้แบบนี้
ก็เพราะประกันชีวิตถูกออกแบบมาให้เป็นแบบนี้!!
.
เพื่อให้เห็นภาพชัด สมมติมีคนเอาเงินมาฝากคุณเดือนละ 2,500 บาท
(ปีละ 30,000) แล้วบอกว่าคุณต้องการันตีเงิน 1,000,000 บาท
ให้ครอบครัวของเขาทันทีที่คุณรับเงินงวดแรกเขาไป
ต้องรับเงื่อนไขนี้ ห้ามบิดพลิ้วเด็ดขาด

1.ถ้าผู้ฝากตายเสียแต่ปีแรก ต้องการันตีจ่ายหนึ่งล้านบาท
2.ถ้าผู้ฝากพิการทุพพลภาพ คุณต้องฝากปีละ 30,000 บาทแทน 
แต่ยังการันตีหนึ่งล้านให้ครอบครัวของผู้ฝากเหมือนเดิม
3.ถ้าผู้ฝากไม่ตาย อยู่จนแก่ชรา ก็ต้องคืนเงินที่ฝากทั้งหมดมา เพื่อเอาไว้เลี้ยงดูตัวเองยามชรา
4.ถ้าผู้ฝากอยากกู้เงินตัวเองหลังจากฝากไปสองปี ต้องให้กู้ได้ตามมูลค่าเงินสด ณ ขณะนั้น
5.คุณต้องไม่ยอมให้เจ้าหนี้มายึดเอาเงินจำนวนนี้ไปได้ ต้องให้แก่ทายาทผู้ฝากเท่านั้น
6.ทุกปี คุณต้องออกหนังสือรับรองการฝากเงิน เพื่อให้ผู้ฝากนำไปลดหย่อนภาษีตามกฏหมาย
.
ด้วยเงื่อนไข 6 ข้อนี้ คุณพอจะรับฝากได้ไหม?
ถ้าไม่ได้ แต่มีสถาบันการเงินรับฝากด้วยเงื่อนไขเดียวกัน
คุณอยากฝากเงินกับสถาบันการเงินนั้นไหม?
สถาบันการเงินนั้นก็คือ “บริษัทประกันชีวิต”
.
ตัวแทนประกันชีวิตแทบทั้งโลกอาจอธิบายเรื่องประกันชีวิต
แตกต่างกันไป 
บางคนบอกว่า เพื่อประกันรายจ่ายของครอบครัว
บางคนบอกว่า เพื่อประกันอนาคตทางการศึกษาบุตร
บางคนบอกว่า เพื่อประกันค่าตัว/ ค่าความสามารถ
บางคนบอกว่า เพื่อเป็นมรดกให้คนข้างหลัง
.
เบน เฟลด์แมน ชายผู้ขายประกันชีวิตมากที่สุดในโลก
โดยได้รับการบันทึกสถิติไว้ใน กินเนสส์บุ๊ก
เบนกล่าวไว้อย่างเรียบง่ายว่า...
“ประกันชีวิตคือ เงินสด ที่ต้องถูกส่งมอบให้กับใครคนใดคนหนึ่ง
ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง อย่างแน่นอน ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้”
.
ถ้าคุณต้องการ “เงินสด” คุณต้องการ “ประกันชีวิต”
เพราะประกันชีวิตคือ “เครื่องมือสร้างเงินสดที่ดีที่สุด”
.
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมวางแผนการเงิน ป้องป้องคนที่คุณรักกันนะครับ
ด้วยการจัดสรรเงินก้อนเล็กๆ มาซื้อเงินก้อนใหญ่ไว้ให้ครอบครัวคุณครับ