ไม่มีคำว่า “มีประกันเยอะเกินไป”
สำหรับแม่หม้ายและลูกกำพร้า
.
เพราะนั่นหมายถึงเงินก้อนสุดท้ายที่เธอจะได้รับจากสามี
นั่นคือเงินก้อนสุดท้ายที่พ่อได้ทิ้งไว้ให้ลูก
.
สมมติคุณขับรถเก่งคันเบ้อเริ่ม
แล้วเกิดยางแตกขึ้นมา
คุณไปเปิดกระโปรงท้ายรถ
เพื่อหยิบยางอะไหล่มาเปลี่ยน
.
แต่ปรากฏว่า...
มันเป็นยางอะไหล่ “จักรยาน”
มันคือยางอะไหล่แต่เอามาใช้กับรถเก๋งไม่ได้
.
ฉันใดก็ฉันนั้น
หลายครั้งที่ตัวแทนประกันชีวิต
เสนอขายประกันชีวิตเพิ่มให้ลูกค้า
ลูกค้าที่มีประกันแล้วมักจะพูดว่า
“มีประกันเยอะแล้ว”
.
โดยที่หลายคน
ก็ไม่รู้ว่าประกันที่ตัวเองถือไว้
มีวงเงินเท่าไหร่ ค่ารักษาเท่าไหร่
ตอบได้แค่ว่ามีประกันแล้ว
.
พอเกิดเหตุขึ้นมาจึงพบว่า
ค่ารักษาพยาบาลที่ซื้อไว้
ไม่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล
ต้องควักจ่ายเองเป็นแสน
.
หรือ Worse Case
หัวหน้าครอบครัวจากไป
มีภาระ ทั้งหนี้ธุรกิจ ทั้งการศึกษาบุตรที่ยังเรียนไม่จบ
ปรากฏว่ามีทุนประกันชีวิตรวมแค่ หนึ่งล้าน
ลำพังจัดงานดำเงินก็จะหมดแล้ว
.
แล้วธุรกิจ ค่าเลี้ยงดูคนในครอบครัว ค่าเทอมลูก
ใครล่ะจะต้องจ่าย หากหัวหน้าครอบครัวไม่อยู่
.
ให้ตัวแทนตรวจสอบให้คุณดูว่า
หากพายุใหญ่พัดเข้ามาบ้านคุณ
หลังคาทางการเงินคุณอุดรูรั่ว
ครอบคลุมทุกปัญหาแล้วหรือยัง
.
ดังที่ผมกล่าวตอนต้น
ไม่มีแม่หม้ายและลูกกำพร้าคนไหน
จะตำหนิพ่อว่า “ทำประกันให้เยอะเกินไป”
ประกันที่ทำไว้ก็แทนใจ พูดคำว่ารักแทนคุณทั้งนั้น
.
ติดต่อ