ไม่ซื้อประกันหรอก เหมือนแช่งตัวเอง!!
.
หลายคนเวลาตัวแทนประกันชีวิตเสนอขาย
ก็มักจะพูดประโยคนี้เพื่อบอกปฏิเสธตัวแทน
.
มันง่ายมากที่จะพูดแบบนั้น
แล้วทำให้ตัวแทนประกันเดินจากคุณไป
โดยที่ผู้พูดอาจไม่ต้องเสียเงินทำประกัน
แต่สิ่งที่จะอยู่กับผู้พูดต่อไปคิอ “ความเสี่ยง”
.
ความเสี่ยงในที่นี่ไม่ได้หมายถึงความเสี่ยงของผู้พูด
แต่หมายถึง “ความเสี่ยงของผู้อยู่เบื้องหลังผู้พูด
.
ผมไม่รู้ว่านั่นเป็นเหตุผลที่แท้จริง หรือ
เป็นคำพูดตัดความรำคาญเพื่อไล่ตัวแทน
แต่ถ้ามันเป็นความคิดของคุณจริงๆ
คุณไม่ต้องซื้อประกันก็ได้ครับ
.
ไหนๆ คุณอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว
มาขบคิดกันแบบผู้มีเหตุและผล
.
ถ้าประกันเป็นการแช่งจริงๆ
ฟังดีดี...นะครับ
“บริษัทประกันเจ๊งไปนานแล้วครับ”
.
ไม่เจ๊งได้ไง!!!
ก็ลูกค้าทำประกันแล้วต้องเจ็บป่วย หรือ ตาย
รับเงินเขามานิดเดียว แต่ต้องจ่ายลูกค้ามหาศาล
.
เช่นลูกค้าจ่ายเบี้ยมาสักสามหมื่นกว่าบาท
ลูกค้าเกิดเจ็บป่วย ค่ารักษาเป็นแสนๆ บริษัทประกันต้องจ่าย
ตายขึ้นมา บริษัทประกันก็ต้องจ่ายสินไหมเป็นล้าน
.
จะเห็นว่า ถ้าคำพูดคุณเป็นจริง
ใครทำแล้วป่วย ใครทำแล้วตาย
บริษัทต้องเจ๊งเท่านั้นครับ!!!
.
แต่ในความเป็นจริง
บริษัทประกันชีวิตกลับเติบโตขึ้นทุกปี
แสดงว่าคนที่มีประกันไม่เจ็บป่วยและตายง่ายๆ
.
ตรงกันข้ามเลย
คนที่ไม่มีประกันสิ
เหมือนประกันรถยนต์ ประกันขาด รถชนทันที
คนไม่มีประกันก็เหมือนกัน เข้าตำราผีซ้ำด้ามพลอย
ไม่มีประกัน แต่ดันป่วย ดันตาย
ไม่มีค่ารักษา จากไปแบบไม่มีค่าตัว
บางคนทิ้งหนี้สินไว้ให้คนข้างหลังตามใช้อีก
.
แช่งไม่แช่ง อันนี้จริงและไม่จริงในความคิดบางคน
แต่ที่แน่ๆ ใครมีประกัน คนนั้นมี “มรดก”
ให้คนข้างหลังแน่ๆเมื่อเขาจากไป
.
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่มีประกัน
หรือไม่แน่ใจว่าประกันที่ทำอยู่
คุ้มครองทุกมิติการเงินแล้วหรือยัง
ลองมาคุยปรึกษาหารือ
แบบ เพื่อนมนุษย์คุยกัน แบบห่วงกัน
ไม่ใช่ เซลส์แมนกับลูกค้าคุยกัน
.
ผมยินดีให้คำปรึกษาจนกว่าคุณจะได้คำตอบ
จนกว่าคุณจะรู้ว่าคุณป้องกันปัญหาอย่างไร
ทำงานแบบใจแลกใจกันไปก่อน
ที่เหลือ คุณเป็นคนตัดสินใจ
แฟร์ไหมครับ?
.
ด้วยความเคารพ
