ภาพและบทความนี้มีลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย

ไม่ได้บอกว่า “ทำประกัน” แล้วจะไม่เจ็บป่วย
แต่จะบอกว่า ถ้าเจ็บป่วย แล้ว “ไม่มีประกัน” 
จะเจ็บกว่า!!!
.
รู้อะไรไม่สู้...รู้งี้
ว่าที่ลูกค้าหลายคน (ใช้คำว่า “ว่าที่” เพราะยังไม่ได้เป็นลูกค้า)
ผัดตัวแทนออกไป ยังไม่ซื้อประกัน
ด้วยเหตุผลว่า “มีรายจ่ายอย่างอื่นที่ต้องจ่าย”
.
วันหนึ่งตัวแทนได้รับสายจากว่าที่ลูกค้าคนเดิม
เสียงปลายสายบอกว่า “จะซื้อประกันแล้ว”
.
ได้ยินแบบนั้นตัวแทนใจหายนะครับ
เพราะอะไรรู้ไหมครับ 
ในภาวะเหตุการณ์ปกติ
จะไม่มีใครโทรมาแล้วบอกว่า “จะซื้อประกัน”
.
ตามคาด...
ว่าที่ลูกค้าจะพูดทำนองว่า
“ทำแล้ว...กี่วันเบิกค่ารักษาได้”
“ทำแล้ว...เบิกได้เลยไหม?”
.
ตัวแทนถามว่า พี่เป็นอะไรหรือครับ
ว่าที่ลูกค้าท่านนั้นบอกว่า ไปตรวจสุขภาพมา
เจอก้อนเนื้อ เลยคิดจะทำประกัน!!

อีกรายบอกว่า...
เมื่อเช้าประสบอุบัติเหตุ จะซื้อประกัน
ตัวแทนช่วยทำให้เบิกค่ารักษาให้ได้หน่อยได้ไหม?
.
แต่...มันทำไม่ได้แน่นอนครับ
ประกันเป็นสินค้าที่ต้องซื้อ ก่อนเกิดเหตุ
ไม่ใช่มีเหตุแล้วจึงค่อยมาซื้อครับ
.
ว่าที่ลูกค้าเลยต้องจ่ายเอง
ค่ารักษาเป็นแสน เป็นล้านก็มี
นับเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างมาก
.
แต่ถ้าเป็นกรณีร้ายแรงที่สุดล่ะ??
ต้องจากครอบครัวไปตลอดกาลล่ะ
อย่าลืมนะครับ รายได้จะตายตามไปด้วย
ถ้าไม่มีบริษัทประกันชีวิตจ่ายค่าชดเชย
.
คนที่เดือดร้อนไม่ใช่คนที่จากไปแล้ว
แต่เป็นคนที่ยังอยู่ต่างหาก
เพราะขาดรายได้จากหัวหน้าครอบครัว
.
“กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะเกิดเรื่องแย่ๆ แก้ไม่เคยทัน”
.
“ประกันชีวิตทำเร็วไป 1 ดี ย่อมดีว่าทำช้าไปแค่ 1 วัน”
.
หากคุณกำลังกังวลใจว่า
เกิดเจ็บป่วย เงินเก็บจะพอรักษาไหม
ไม่อยากสูญเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต
หรือ กลัวคนข้างหลังจะลำบาก
ถ้าขาดคุณไป
.
ให้ผมเป็นอีกแรงที่ช่วยคุณแก้ปัญหา
และความวิตกกังวลนี้
มาคุยปรึกษากันก่อน
.
ยังไม่ต้องซื้ออะไรกันหรอกครับ
ให้ผมทำงานให้คุณดูก่อน
เมื่อคุณเห็นว่าผมบริการดี
เหมาะที่จะดูแลคุณก็ค่อยว่ากันครับ