กำลังบันทึกข้อมูล
## บทโทรทำนัดเพื่อเข้าพบเพื่อน ##
แบ่งปัน
โดย ชัยยะพัส อินจงกลรัศม์ 17/7/64 16:38
## บทโทรทำนัดเพื่อเข้าพบเพื่อน ##

????Question: สวัสดีครับพี่คำตันเอง แจ๊กจำวันนั้นที่พี่คุยกับแจ๊กได้ไหม
พี่ว่าจะไปคุยกับโครงการคุ้มครองรายได้ คุ้มครองครอบครัว ทุนการศึกษาบุตร สวัสดิการต่างๆ
พอดีพี่จะถามแจ็กว่าจะให้พี่เข้าไปวันไหนเสาร์หรืออาทิตย์
หรือว่าเป็นวันนี้พี่จะได้ไปคุยรายละเอียดต่างๆให้ฟังใช้เวลาประมาณ 5 นาที 10 นาที
ลูกค้าตอบมาไม่สะดวกครับ

????Answer:
จำหลักการง่ายๆ ครับ

✅คนไม่ชอบความรู้สึก “ถูกขาย”
✅10 คำแรก สำคัญกว่า 10,000 คำถัดไป
✅คนซื้อ “ประโยชน์” สินค้า ไม่ได้ซื้อสินค้า ????????ขายกลิ่นไก่ย่าง ไม่ใช่ตัวไก่
✅คนจะทำธุรกิจกับคนที่เขาไว้ใจ เปิดหัวใจเขาเสียก่อน

ประโยคที่คุณพูด ก่อให้เกิดความรู้สึกกับเขาว่า “คุณกำลังจะเข้าไปขายอะไรที่เขายังไม่ต้องการ”
แน่นอนเขาจะบอกคุณว่า “ไม่สะดวก”

และคำพูดของคุณขัดกับหลักการเบื้องต้น
????????คนไม่ชอบถูกขาย
????????คำพูดของคุณ ไม่มี “ประโยชน์ของเขา” อยู่ในประโยค
????????เขายังไม่รู้สึกว่าได้ประโยชน์อะไรจากการที่คุณเข้ามา
????????คนทั่วไปปิดใจกับตัวแทนประกันชีวิต เพราะเคยได้ยิน ได้ฟัง หรือ อาจได้เคยสัมผัสตัวแทนจอมตื้อ พยายามขาย

ทีนี้ก็ต้องมาวิเคราะห์กันว่า
คุณกับผมว. สนิท หรือ มีเครดิตต่อกันขนาดไหน
การโทรทำนัดก็ต้องตัดเย็บให้เหมาะสมกับผู้มุ่งหวังแต่ละแบบ

ดังนั้นบทการโทรทำนัดจะไม่ตายตัว แต่จะอยู่ใน “หลักการ” ที่บอก
เมื่อคุณเข้าใจหลักการ คุณจะออกแบบบทโทรทำนัดได้เอง

เช่น ถ้าผู้มุ่งหวังเป็นเพื่อนที่พอสนิทกันหน่อยกับตัวแทน

ตัวแทน: ในฐานะเพื่อนกัน กูถามมึงตรงๆ หน่อยวะ ถ้ากูมาทำธุรกิจประกันชีวิต มึงจะรังเกียจ หรือเลิกคบกูเลยไหม ตอบตรงๆ กูจะได้รู้ว่ากูควรจะทำต่อหรือเลิกทำ

เพื่อน: (คำตอบก็แล้วแต่เขา) ก็ไม่หรอก แต่กูไม่ค่อยชอบตัวแทน

ตัวแทน: โอเค กูเข้าใจ กูเคยเป็นลูกค้ามาก่อน กูก็เคยรำคาญตัวแทนชิบหาย เหมือนพยายามจะมาขาย ตอนแรกกูก็เลยไม่ซื้อ กูก็เลยมั่นใจว่า กูจะไม่ทำอย่างนั้นกับใครแน่นอน คุยกันให้รู้เรื่องก่อน ไม่ใช่จะเอาแต่ขายๆๆ

แต่กูถามมึงหน่อยเถอะวะ ตอนกูตาย มึงไปงานศพกูไหม

เพื่อน: ไป

ตัวแทน: เอาตรงๆ มึงคิดว่าจะใส่ซองให้งานศพกูกี่บาท หรือถ้านึกไม่ออกงานศพที่มึงเคยใส่ซองมากที่สุดเท่าไหร่?

เพื่อน: (ตอบเท่าไหร่ก็ได้)

ตัวแทน: มึงคิดว่า ค่าซองงานศพที่เก็บได้ทั้งหมด พอจัดค่างานศพกูไหม และมากพอที่จะเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียกูต่อไปไหม หลังจากกูตายไปแล้ว

เพื่อน: ก็ไม่น่าจะพอ

ตัวแทน: มึงเห็นด้วยกับกูไหม แขกเหรื่อที่มางานศพกู เขามาร่วมแสดงความเสียใจ แต่จะมีกี่คนที่จะนึกต่อว่า ลูกกับเมีย พ่อกับแม่ของกูจะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไง หลังจากที่กูซึ่งเป็นคนหาเงินเข้าบ้านต้องจากไป
กูกล้าพูดตรงนี้เลย “ไม่มีสักคน” ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร มันไม่ใช่ครอบครัวของเขา

ตัวแทน: งานของมึงหรือของกู ก็ไม่รู้ว่าของใครจะเกิดขึ้นก่อน แต่เรื่องนั้นก็ยังไม่สำคัญเท่า...ถ้ามันเกิดแล้ว ลูกเมียของเรายังสุขสบายดีไหม พวกเขาจะลำบากหรือเปล่า

ถ้าวันนี้กูทำหน้าที่เพื่อน ไปตรวจสอบดูสิว่า ครอบครัวมึงปลอดภัยหรือยัง มีตรงไหนที่ต้องแก้ไข
ส่วนมึงก็ทำหน้าที่พ่อ หน้าที่สามีที่ดี ช่วยกันกับกู ดูว่าครอบครัวของมึงตรงไหนยังมีช่องโหว่อยู่ ถ้ามีรอยรั่ว ก็อุดรูนั้นซะ แก้ปัญหากันไป ถ้ามีครบถ้วนแล้ว ทั้งมึงและกูก็สบายใจทั้งคู่

อย่างงานศพกูมึงมา มึงก็รู้ไว้เลยว่ากูได้เตรียมทุกอย่างให้ลูกให้เมีย ให้พ่อให้แม่กูแล้ว

และถ้าครอบครัวมึงเซฟแล้ว ปลอดภัยดีแล้ว และมึงเห็นว่ากูเป็นมืออาชีพ มึงจะเป็น “สะพานบุญ” แนะนำกูให้คนที่สนิทหรือห่วงใย ก็ต้องขอบใจมึงมาก

นอกจากไปคุย ก็ถือโอกาสไปเยี่ยมเยียนมึงด้วยเลย
มึงสะดวกเป็นช่วงวันหยุดหรือ วันธรรมดา
(ปิดการนัดหมาย)
ดู 816, ตอบ 0
โปรแกรมกุนซือประกัน (Beta) V.1
สงวนลิขสิทธิ์ © 2567 พี่ชื่อเจฟ
นโยบายการจัดส่งสินค้า | นโยบายการยกเลิกการสั่งซื้อ | นโยบายการคืนเงิน | นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | ข้อเสนอแนะจากผู้ใช้