ที่ต่างประเทศ การที่จะบอกว่านักธุรกิจคนใดประสบความสำเร็จแค่ไหน
มีผลวิจัยที่บอกว่า ให้ไปดูที่กรมธรรม์ที่ผู้บริหารคนนั้นถือ

เพราะ ประกันชีวิตคือ “การบ่งบอกถีงคุณค่า ที่นักธุรกิจผู้นั้นมองเห็นในตนเอง”

อาเจ็กเห็นด้วยกับหนูไหมคะ?
ทรัพย์สินบรรดามี ก็มีแล้ว
บ้าน รถ ของนอกกายก็มีแล้ว
การยอมรับนับถือ ของผู้คนก็มีแล้ว
ความสุขทางใจที่ได้แบ่งปัน อาเจ็กก็คงทำไปหมดแล้วเช่นกัน

ก็เหลืออีกอย่างเดียว คือ การให้คุณค่าในตนเอง และแปลงทรัพย์สินภายในนั้นให้เป็นสินทรัพย์ก้อนใหญ่มหาศาลอีกชิ้นก่อนลาจากโลกนี้ไป

เงินตรงนี้ อาจไม่ได้สร้างความแตกต่างในชีวิตอาเจ็กแล้ว
เพราะหายไปพันล้าน หรือ เพิ่มมาอีกพันล้าน ก็ไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตอาเจ็กแย่ลง
แต่ มันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้มากมาย

หากมรดกเงินสดจากกรมธรรม์ฉบับนี้ ยกให้ลูก มันก็เป็นมรดกลูก
หากมรดกเงินสดจากกรมธรรม์นี้ยกให้เป็นสาธารณกุศลมันก็ยังประโยชน์แด่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก

หนูเชื่อว่าคนรวยได้ สำเร็จได้ ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค แต่เป็นเรื่องของความสามารถร้อยเปอร์เซ็นต์
และที่สำคัญ ต้องเป็น “คนดี มีเมตตา” ในตำราแห่งความสำเร็จ ผู้สำเร็จต่างก็บอกเช่นนั้น

ตอนนี้ผู้ที่ประกันค่าความสามารถสูงสุดในประเทศไทย อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท
อาเจ็ก อยากสร้างมรดก เพื่อบ่งชี้ความสามารถของอาเจ็ก เริ่มต้นที่ 100 หรือ 200 ล้านดี หรือเอามากกว่านักธุรกิจคนนั้นไปเลยดีคะ