บทโทรทำนัด 
by มนตา สำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์เยอะแล้ว

สวัสดีค่ะ ดิฉัน มนตา นะคะ โทรจากบริษัท.............

รบกวนเวลาคุณลค.ไม่เกิน 3 นาที

เพื่อมาแจ้งสิทธิ์ประโยชน์ในกรมธรรม์สำหรับลค.ที่มีกรมธรรม์  25 บริษัทประกันชีวิตในเมืองไทย

ไม่ทราบว่าพี่ซื้อประกันไว้ผ่านช่องทางไหนบ้างคะ

1.ทางโทรศัพท์
2.ทางหน้าเคาเตอร์ Bank
3.ผ่านตัวแทน

เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19

(เอาด้านบนมาตอบว่าถ้าลค.ซื้อช่องทางไหน เราก็พูดช่องทางนั้น)
ลค.ที่ซื้อประกันทาง
โทรศัพท์ไม่มีตัวแทนดูแล ไม่รู้ว่าที่ซื้อประกันไว้คุ้มครองอะไรบ้าง
หากเกิดเหตุ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายมั้ย 

(หรือทำผ่านหน้าเคาเตอร์แบงค์ไม่มีตัวแทนดูแล หรือ ทำผ่านตัวแทน ตัวแทนลาออก ไม่มีตัวแทนดูแล เป็นกรมธรรม์กำพร้า)

นอกจากแมสก์ กับเจล ล้างมือ มนตามีแล้ว แถมอีกอย่าง คือ
"หัวใจแห่งการบริการค่ะพี่"

มนตาจึงขออนุญาตเข้ามาดูแลทบทวนผลประโยชน์ในกรมธรรม์ให้ว่าที่พี่ทำประกันไว้
มีประกันหรือมีแต่เล่มกรมธรรม์

(ลค.ก็จะงงว่า มีแต่เล่มกรมธรรม์ คือ อะไร มีประกัน ก็มีเล่มกรมธรรม์สิ)

(เป็นคำพูดขโมยหูลค.ทำให้ลค.งง
และจะทำให้ลค.ลดกาดที่จะป้องกันตัวเองลง)

????มีประกันหมายความว่า
เอาเงินก้อนเล็กมาแลกเงินก้อนใหญ่
ส่งเบี้ย 2 หมื่น รับความคุ้มครอง 1 ล้าน 2 ล้าน

????มีแต่เล่มกรมธรรม์ หมายความว่า
ส่งเบี้ย 2 หมื่น รับความคุ้มครอง 2 หมื่น 3 หมื่นแบบนี้น่ะค่ะ
เงินตัวเองคุ้มครองตัวเอง เป็นรูปแบบของสะสมทรัพย์
ตกลงที่พี่ทำประกัน พี่จะให้บริษัทประกันคุ้มครองพี่ หรือพี่จะคุ้มครองบริษัทประกันคะ
(โชว์กึ๋นตัวแทน)

(ลค.ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า มีสะสมทรัพย์ไว้)

มนตาก็จะถามลูกค้าต่อว่า
"แล้วที่พี่ทำประกันตรงกับวัตถุประสงค์พี่มั้ยคะ"

ที่พี่ทำประกันนอกจากเก็บเงินและลดหย่อนภาษีแล้ว

หากมีงบประมาณจำกัดอยู่ 1 ก้อน เลือกให้บรืษัทประกันดูแลพี่ได้เพียงแค่เรื่องเดียว พี่กังวลใจด้านไหนมากที่สุดคะ กรณีจากไปก่อน ห่วงใยคนข้างหลัง 
หรือ ต้องการมีเงินบำนาญใช้หลังเกษียณคะ

(ลค.ก็จะตอบ เป็น 4 ทาง
คือ ห่วงใยคนข้างหลัง
หรือต้องการมีเงินบำนาญใช้หลังเกษียณ หรือ ห่วงทั้ง 2 อย่าง หรือไม่ห่วงเลย)

หากลูกค้าตอบว่า
ห่วงใยคนข้างหลัง
เรียนถามว่า คนข้างหลังของพี่ คือใครคะ
(ลูก ภรรยา พ่อ แม่)
หากลค.ตอบว่า ห่วงลูก
เราจะรักลูกตราบเท่าชีวิตเรา
หรือตราบเท่าชีวิตลูกคะ

ลค.ส่วนใหญ่ ก็จะตอบว่า
ตราบเท่าชีวิตเรา

มนตาก็จะถามว่า
หากเราไม่อยู่ลูกอยู่ยังไงคะ

(ต่อมาก็เข้าบทพี่เจฟค่ะ)

มนตาก็จะถามลูกค้าว่า
พี่ทราบมั้ยคะว่า
กรมธรรม์ที่พี่ถืออยู่มีความคุ้มครองเท่าไหร่คะ

(ถ้าลค.ตอบ ทำไว้ทุนประกัน 5 แสน หรือจำไม่ได้  มนตาก็จะเมคเลยว่า ถ้าคุณลค.ทำทุนประกันไว้ 5 แสน บาทนะคะ)

สมมุตินะคะ วันนี้ถ้าหากคุณลูกค้า
ขับรถเบนซ์ คันเบ้อเริ่ม ออกไปนอกบ้าน มีใครไม่รู้วางยาไว้ รถเกิดยางแตก ดัง ตู้มมมม 

เราลงจากรถ ไปเปิดท้ายรถหยิบยางอะไหล่ขึ้นมา แต่อนิจจา  ปรากฎว่า
ยางอะไหล่ที่หยิบออกมาไม่ใช่ยางรถยนต์!!!!!!!

แต่เป็นยางรถจักรยาน
พี่จะทำยังไงคะ

เรื่องนี้บอกอะไรเราคะพี่?????
ลค.หลายๆ คนบอกมนตาว่ามีกรมธรรม์เยอะอยู่แล้ว  เค้าคืดว่า กรมธรรม์ที่เค้าถืออยู่ สามารถคุ้มครอง ครอบคลุมทุกอย่างได้
แต่พอเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ไม่เพียงพอครอบครัวทำยังไงคะ

คุณลค.คะบ้านถ้า ราคา 10 ล้าน ก็ประกันเต็มวงเงิน 10 ล้านใช่มั้ยคะ

รถราคา 2 ล้าน ก็ประกันเต็มวงเงิน 2 ล้านใช่มั้ยคะ
แล้วคนล่ะคะ ใครสร้างใคร??????

คนสร้างบ้าน คนสร้างรถ
หรือบ้านรถ สร้างคนคะ

พี่คะ พี่เห็นด้วยกับหนูมั้ยคะว่า
พวกเราทุกคนรู้หมด
ว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น
ไม่มีใครซักคนรู้ว่า
พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น

เราทุกคนรู้ว่าต้องจากโลกนี้ไป
ในวันหนึ่ง แต่ไม่มีใครซักคนรู้ว่าต้องจากไปในวันไหน
แต่ถ้าหากวันนึงเราต้องจากไป
คนที่รักและห่วงใยยังลำบาก
หากเราอยู่บนสวรรค์แล้วรับรู้ได้
หนูคิดว่าปวดใจแน่นอนค่ะ


หนูขออนุญาตเข้าไปทบทวนผลประโยชน์ในกรมธรรม์ให้พี่นะคะ
ว่าพี่มียางอะไหล่รถยนต์
หรือรถจักรยาน
หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
กรมธรรมที่พี่ถืออยู่พียงพอให้กับ
ครอบครัว คนที่พี่รักมั้ย นะคะ
พี่สะดวกเป็นวันจันทร์-ศุกร์ หรือเสาร์อาทิตย์ดีคะ

สะดวกเป็นช่วงเช้า หรือช่วงบ่ายดีคะ