โดย ชัยยะพัส อินจงกลรัศม์ 19/7/64 18:59
ตัวแทน: คุณพ่อ คุณแม่น่ารักมากค่ะ ที่ท่านหวังดีกับพี่ ไม่อยากให้พี่สิ้นเปลือง ไม่อยากให้ลูกมีรายจ่ายเพิ่ม
แต่เบื้องต้นพี่ทำไมถึงอยากทำประกันให้ท่านล่ะค่ะ
ผู้มุ่งหวัง: ก็อยากให้ท่านมีความคุ้มครอง เผื่อเจ็บป่วยจะได้มีค่ารักษา
ตัวแทน: เป็นเหตุผลที่ดีค่ะ
ถ้าวันนี้พี่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ท่าน หรือพาท่านไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงนี้ แล้วท่านบอกกลัวสิ้นเปลือง อันนี้ฟังได้ค่ะ
แต่พี่เห็นด้วยไหมคะ
เราทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพราะเราไม่รู้จริงๆ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ความเสี่ยง ก็เหมือน อากาศค่ะ เรามองไม่เห็น แต่มันก็มี
พี่อ๊อฟ พงศ์พัฒน์ อายุไม่ถึง 60 ร่างกายแข็งแรง วิ่งวันละ 10 กิโล
วันหนึ่งไปกำกับภาพยนตร์ ลูกสาวยื่นกล้วยให้ทาน ตอนที่จะรับกล้วยมาทาน แกวืดหมดสติ จังหวะที่จะหมดสติแกคิดได้ในใจแค่ว่า “ลาก่อนนะลูก” ฟื้นมาอีกที เป็นเส้นเลือดสมองตีบ ใบหน้าบูดเบี้ยว เป็นอัมพาตต้องทำกายภาพอยู่นานหมดเงินนับสิบๆ ล้าน พี่อ๊อฟจึงทำคลิปวิดีโอเป็นวิทยาทานว่า “อย่าประมาท”
ถามว่ามีใครรู้ล่วงหน้าไหมคะ
หนูจึงบอกว่าถ้าเป็นสินค้าอย่างอื่น บอกสิ้นเปลือง อันนั้นฟังได้
แต่ประกัน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นค่ะ
ประกันรถขาดวันเดียว รถชนเละ
ประกันไฟขาดวันเดียว ไฟไหม้วายวอด
ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตก็เหมือนกับร่มชูชีพ
คุณมีโอกาสใช้ได้ครั้งเดียว ถ้าถึงเวลาต้องใช้ แล้วคุณไม่มีมัน คุณจะไม่มีโอกาสได้ใช้เป็นครั้งที่สอง
ประกันชีวิตมีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าถึงตอนเวลาใช้แล้ว “ไม่มี” นะคะ
ในวัยเด็ก คุณพ่อคุณแม่ปกป้องพี่ตั้งหลายๆ เรื่อง โดยที่ท่านไม่เคยคิดว่าสิ้นเปลือง แค่ท่านคิดว่า นั่นดีกับลูกท่านที่สุด วันนี้ในฐานะลูก พี่อยากปกป้องท่าน ปกป้องเถิดค่ะพี่
เพราะถ้าเกิดเหตุขึ้นมา ถึงตอนนั้นหากต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลมากกว่าเบี้ยประกันเป็นหลายสิบเท่า มันจะสายเกินแก้
รบกวนพี่เซ็นตรงนี้ค่ะ
ดู 553, ตอบ 0