โดย ชัยยะพัส อินจงกลรัศม์ 19/7/64 19:26 สมัยก่อนตอนเป็นเด็ก เวลาเพื่อนรุ่นเดียวกันมาตบหัวคุณ คุณทำยังไงครับ?
คุณตบหัวเพื่อนกลับใช่ไหม? คุณจะยืนทื่อให้เพื่อนตบหัวคุณเล่น หรือคุณจะสวนเพื่อนกลับไปครับ?
========
เดี๋ยวๆๆๆๆ
คำเตือนก่อนอ่านต่อ: บทตอบข้อโต้แย้งนี้ออกแนวสายดาร์คมีคำที่ไม่สุภาพ ผรุสวาท ผสมอยู่มาก เพียงเพื่อให้เกิดอรรถรสในการอ่านและแสดงความรู้สึกผู้เขียน ท่านใดไม่ชอบคำหยาบคาย คำสบถ แนะนำว่าไม่ควรอ่านบทความนี้
========
ถ้าเพื่อนคนไหนไม่รังแกคุณ มีน้ำใจกับคุณ
คุณก็ชอบเล่นกับเขา และคุณก็ปฏิบัติดีกับเพื่อนแบบนี้ใช่ไหม
วันนี้คุณมาทำธุรกิจประกันชีวิต (หรือจะขายสินค้าอะไรก็ตาม ทำธุรกิจขายตรงหรืออะไรก็แล้วแต่) แล้วคุณไปเจอคนห่วยๆ ที่เจอเรื่องซวยๆ มาจากคนอื่น เจอประสบการณ์ตัวแทนแย่ๆ หรือแค่เพียงได้ฟังคำบอกเล่าจากคนอื่นมาว่า ตัวแทนประกันชีวิตเลว แย่แบบนั้นแบบนี้ แล้วก็ตัดสินคุณ แล้วจะมาด่าคุณ แล้วปฏิบัติกับคุณเหมือนไม่ให้เกียรติกัน
คุณทำยังไงครับ?
เหตุการณ์แบบนี้ก็เหมือนกับวันที่คุณโดนเพื่อนในสมัยเด็กตบหัวเอา
คุณจะเหนียม ก้มหัวให้เขาตบหัวคุณหรือ คุณจะตบหัวเพื่อนกลับ
อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้บอกว่าให้คุณใช้กำลัง หรือด่าเขากลับ
ผมให้คุณใช้ “ปัญญา” ในการแก้ปัญหา
หลังจากที่ผมฝึกฝนตนเอง และใช้ยุทธวิธีนี้เวลาเจอลูกค้าประเภทแหกนรกขึ้นมาเกิด คือเขาไม่ให้เกียรติใครเลย ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ด่าคุณเป็นชุดประหนึ่งว่าคุณไปฆ่าพ่อเขา หลังๆ ผมจึงชอบมากเวลาเจอคนแบบนี้ สมัยก่อน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สนุกมากๆ ที่ได้ใช้กลยุทธ์นี้กับคนที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่น
วัตถุประสงค์ในการโต้ตอบเขาแบบนั้น ไม่ใช่เพื่อการระบายอารมณ์นะครับ แต่มีเหตุผลสองอย่างคือ
คนที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่นคนนี้จะได้ไม่ไปทำแบบนี้กับตัวแทนคนอื่นในอนาคต
ถ้ามีจิตสำนึก และคิดได้ ก็อาจคิดทำประกันชีวิตและปกป้องครอบครัวตัวเอง อันนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือคุณล่ะ
ก่อนอื่น คุณต้องคิดก่อนว่า ตัวคุณมีคุณค่า ตัวคุณมีความสามารถและมีความเป็นมืออาชีพมากพอ คุณไม่จำเป็นต้องงอนง้อ กราบกรานขอใครในการทำธุรกิจ คุณเลือกลูกค้าได้ คนไหนห่วยแตก แหกนรกมาเกิด ก็ไม่จำเป็นต้องฝืนเอามาทำเป็นลูกค้า ต้องกลั้นใจดูแลกันเป็นสิบปียี่สิบปี เพียงเพราะเห็นแก่ผลงาน หรือคอมมิชชั่น
ผมจะบอกว่า คุณไปฝึกฝนตัวเองให้เก่ง มีความเป็นมืออาชีพสูง ดีกว่าจะมานั่งเว้าวอนให้คนซื้อประกัน หรือขอร้องให้ใครช่วยซื้อกับคุณ ผมรับรองครับ จากชีวิตการทำงานของผม หากคุณเก่งจริง คุณเลือกลูกค้าได้หมด คุณอยากได้รายได้เดือนละล้านคุณก็ทำได้ อยู่ที่ว่าคุณเชื่อตัวคุณเองไหมว่า “คุณทำได้"?????
มาเข้าเรื่องกัน
ผมจะไล่เหตุการณ์จาก แซวเบาๆ ให้คุณเสียหน้า ไปจนถึงเล่นคุณหนัก ประเภทพูดจาไม่ให้เกียรติคุณเลย
วันหนึ่ง ไปเจอเพื่อนเก่าที่งานเลี้ยงรุ่น
เมื่อเจอเพื่อน เราก็คุยกันไปกันมา สอบถามสารทุกข์สุกดิบกันไปเรื่อย พอเพื่อนๆ ก็ถามกันว่า ตอนนี้ทำงานอะไรกัน ทุกคนก็พูดอาชีพของตน พอผมบอกว่าผมทำงานเป็นตัวแทนประกันชีวิต ก็เหมือนเพื่อนคนนึง เข้าใจว่าคงกรึ่มๆ ด้วยกับสุราที่ดื่มเข้าไปตั้งแต่หัวค่ำ มันก็โพล่งขึ้นมาว่า
เพื่อน: เฮ้ย มึงขายประกันเหรอวะ อย่ามาขายกูนะโว้ย กูไม่ซื้อหรอก กูโคตรเกลียดประกันเลย!
เพื่อนคนนี้พูดด้วยเสียงอันดัง ทำเอาเพื่อนคนอื่นหัวเราะครืน แนวแบบไม่ซีเรียส มองเป็นเรื่องขำๆ แต่สำหรับผม คนที่รักและเข้าใจอาชีพ ผมไม่ขำด้วย ผมถือว่าดูถูกในวิชาชีพ (สมัยก่อนเลือดร้อน ใครดูถูกไม่ได้ ฮ่าๆๆ)
ผมจึงพูดตอบด้วยเสียงอันดัง กะว่าได้ยินกันถ้วนทั่ว
ผม: มึงเข้าใจอะไรผิดป่าว ไอ้ควาย! ถึงกูจะขายประกันชีวิต แต่กูโคตรเลือกลูกค้าเลย เพราะต้องดูแลบริการกันสิบปี ยี่สิบปี ทำไมกูต้องเลือกมาขายมึง คนนิสัยดีดี ไม่ดูถูกคน กูยังไปขายไม่ทัน มึงสำคัญตัวผิดไปหรือเปล่า โธ่...ไอ้เหี้ย
เพื่อนเริ่มหน้าเสีย...ผมพูดต่อ
งั้นเพื่อนๆ ทุกคนมึงฟังตรงนี้ดีดี พวกมึงจำไว้นะ
กูกับมึง ไม่ใครก็ใคร ต้องตายกันสักวัน
งานศพกู ถ้ามึงมา กูขอบใจ
งานศพพวกมึงทุกคน กูไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ลูกเมียมึงถามว่า พ่อไม่ได้ทำประกันชีวิตไว้เหรอครับลุง กูก็จะบอกลูกๆ พวกมึงว่า ลุงได้พยายามอธิบายอย่างเต็มความสามารถกับพ่อหนูแล้ว แต่พ่อหนูไม่ฟังลุงเลย
ในงานศพกู มึงใส่ซอง 500 หรือ 1000 ก็ไม่เป็นไร กูขอบใจ กูเตรียมเงินไว้ให้ลูกเมียกูแล้ว
แต่ในงานศพพวกมึง กูอยากถามพวกมึงว่า พวกมึงอยากทิ้งมรดกให้ลูกเมียมึงเท่าไหร่ พวกมึงจะจากโลกนี้ไปแบบค่าตัวกลายเป็นศูนย์ไหม หรือไปแบบทั้งๆ ที่ลูกเมียมึงยังลำบากไหม
บอกกูที ถ้ามึงยอม กูจะได้ไม่ต้องไปหา ไม่ต้องพูดเรื่องนี้กับพวกมึงอีก
มึงจำไว้นะ
เพื่อนสำคัญกว่า “ผลประโยชน์”
ถ้ากูจะพูดเรื่องประกันกับพวกมึง คือกูพูดถึง ประโยชน์ของลูกเมียมึง พ่อแม่มึง ไม่ใช่ประโยชน์ของกู
ดังนั้นเวลากูโทรไปหาใครแล้วนัดคุยเรื่องประกัน มึงไม่ให้กูเข้าพบ มึงรู้แล้วนะ ถ้ากูไม่ตายก่อน แล้วไปงานศพพวกมึง กูจะตอบลูกเมีย พ่อแม่พวกมึงว่ายังไง...
หลังจากงานเลี้ยง ผมโทรนัดเพื่อเข้าพบและคุยขาย ปิดการขายเพื่อนได้มากมาย
หัวใจที่เด็ดเดี่ยว จิตใจที่เป็นกุศล คิดแต่ช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ และความเชื่อมั่นในวิชาชีพของคุณ จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในวิชาชีพของคุณอย่างแน่นอน
ดู 774, ตอบ 0