โดย ชัยยะพัส อินจงกลรัศม์ 19/7/64 19:49
เรื่องนั้นผมเห็นด้วย 100% เลยครับ เพราะว่าวันนี้ หากคนโสดจากโลกนี้ไป ย่อมไม่มีใครเดือดร้อนแน่นอน ในมุมนี้ประกันชีวิตจึงไม่มีความจำเป็นเลย ถูกไหมครับ?
เรียนถาม คุณลูกค้าครับ กว่าคุณเรียนจบมาใช้เวลากี่ปีครับ?
ใช้เงินไปเยอะไหมครับกับการศึกษา?
ผู้มุ่งหวัง: ก็เยอะอยู่นะ
ตัวแทน: ซึ่งนั่นยังไม่รวมค่ากินค่าอยู่ ค่าเสื้อผ้า ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เลยถูกไหมครับ
ถามตรงๆ เลยค่าใช้จ่ายพวกนี้ คุณเป็นคนหามาจ่ายเอง หรือมีคนออกค่าใช้จ่ายให้ครับ??
ผู้มุ่งหวัง: พ่อแม่ผมออกให้สิ
ตัวแทน: ไม่รู้คุณเชื่อแบบผมไหมว่า การที่พ่อแม่ของเราส่งเสียเราเรียน ท่านไม่เคยหวังอะไรจากเรา ท่านไม่เคยหวังให้เราต้องมาตอบแทน ท่านทำไปก็เพราะว่า “รักเราด้วยความบริสุทธิ์ใจ”
ผมเคยดูคลิปวิดีโอหนึ่งของ อ.จตุพล ชมพูนิช
ท่านพูดได้ซึ้งมากๆ ว่า
วันที่เราไม่มีเงิน เพื่อนมาหยิบยื่นให้
เรารู้สึกซาบซึ้งใจว่า เพื่อนเป็นคนมีน้ำใจ
แล้วคนที่เลี้ยงดูเรามาทั้งชีวิต ส่งเสียเรามาจนกระทั่งจบการศึกษา
หมดเงินไปไม่รู้เท่าไหร่ คนนั้นคือใครครับ?
วันที่เราป่วยไข้ เพื่อนมาเยี่ยมครั้งนึง แล้วก็หายไป
เรารู้สึกซาบซึ้งใจว่า เพื่อนไม่ลืมเรา
แล้วที่ดูแลเรามาทั้งชีวิต ป้อนข้าวป้อนน้ำเราเวลาป่วยไข้
บางคนประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้ เขาก็ยังอยู่ดูแลตลอดไป
เขาคนนั้น คือใครครับ
วันที่เรามีความรัก
คนที่เรารักเหมือนลมหาย เหมือนทั้งชีวิต
แต่วันที่เขาเดินจากไป เพราะเขาไม่รักเรา เราเหมือนจะเป็นจะตาย
เราบอกเราจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา
แล้วคนที่รักเรามาทั้งชีวิต เรากับไม่สนใจ
แต่เรายอมตายเพื่อใครสักคน ที่ไม่ได้รักเรา
วันนี้เวลากินข้าว แม่จะให้เรากินส่วนที่อร่อยที่สุด ดีทีสุด
ส่วนแม่กินอะไรก็ได้
วันนี้เรากินอาหารอร่อยที่สุด เราคิดถึงใครครับ
เสื้อผ้าใหม่ของเรา คือการไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่ของพ่อแม่
แม่ใส่อะไรก็ได้ แต่ถ้าลูกอยากได้ของใหม่ แม่ก็ยินดีซื้อให้
วันนี้เราซื้อเสื้อผ้าใหม่ เราคิดถึงใครครับ
สำหรับผมนะ ผมเชื่อว่า ความรักของพ่อแม่ผมยิ่งใหญ่
อย่าว่าแต่แค่ส่งเสียเรียนหนังสือเลย ชีวิตของท่าน ท่านก็ให้เราได้ ท่านตายแทนเราได้
คุณเชื่อแบบผมไหมครับ?
(ถ้าคุณพูดได้ดี สื่อถึงความรักได้อย่างงดงาม ผู้มุ่งหวังจะมีท่าทีอ่อนลง)
ผู้มุ่งหวัง: อืม..
ตัวแทน: พ่อแม่ของเรา ท่านอายุมากกว่าเรา จำเป็นเสมอไปไหมครับ ที่ท่านต้องจากเราไปก่อน?
หากโลกกลับตาลปัตร เราต้องจากท่านไปก่อน
ผมขอถามคุณจากใจ ในฐานะคนเป็นลูกเหมือนกัน
คุณอยากจากโลกนี้ไปแบบค่าตัวกลายเป็นศูนย์
หรือ
ไปแบบมีค่าตัว มีเงินสดสัก 1,000,000 บาท เพื่อตอบค่าน้ำนมให้ท่านทั้งสอง ที่มีความอุตสาหะเลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ เงินก้อนนี้จะเลี้ยงดูท่านเสมือนหนึ่งคุณอยู่ดูแลท่านด้วยตัวคุณเอง
แบบไหนดีกว่ากันครับ?
คุณออมปีละ 3% ของวงเงินตอบแทนค่าน้ำนมที่คุณต้องการ
เช่น ออม 15,000 บาทต่อปี เพื่อวงเงินตอบแทนค่าน้ำนมบิดามารดา 500,000 บาท
ออม 30,000 บาทต่อปี เพื่อวงเงินตอบแทนค่าน้ำนมบิดามารดา 1,000,000 บาท
หากเกิดอะไรขึ้นก่อน เงินสดๆ นี้ถูกส่งมอบให้คุณพ่อคุณแม่
หากไม่เกิดอะไรขึ้นเงินทั้งหมดที่คุณออมเข้ามา บริษัทจะคืนให้คุณไว้ใช้ยามเกษียณ
เห็นด้วยไหมครับว่า หากเป็นแบบนี้คุณก็ ชนะ - ชนะ ทั้งสองทาง
คุณอยากสร้างวงเงินเพื่อค่าน้ำนมคุณพ่อคุณแม่
ที่วงเงิน 500,000 หรือ 1,000,000 บาทดีครับ?
ดู 1,351, ตอบ 0