โดย ชัยยะพัส อินจงกลรัศม์ 19/7/64 18:56 ## มาเช็คลิสต์กันสักนิดว่า คุณพร้อมไหมที่จะเป็นผู้บริหาร ##
ถ้าถามผม ผมตอบตามประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ ว่ามีคุณสมบัติประมาณนี้น่าจะเพียงพอที่จะสร้างทีม บริหารทีมได้
ลองเช็คลิสต์กันดูครับว่าคุณมีคุณสมบัติตามนี้ไหม?
1.มีจิตใจที่ต้องการสร้างผู้อื่นให้ประสบความสำเร็จ
2.มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่เป็นคนที่อยู่ในระดับท้อปของบริษัท
3.เป็นตัวแทนอย่างน้อย 1-2 ปี และมีลูกค้าขั้นต่ำ 150 ราย /ปี และพิชิตคุณวุฒิ MDRT (อย่าเพิ่งตกใจ ไม่ยากหรอกครับ หากคุณรู้วิธี และผมมีสอนแบบละเอียด)
4.มีตัวแทนที่คุณชักชวนตอนเป็นตัวแทนไม่ต่ำกว่า 15 คน
มาพิจารณากันทีละข้อนะครับ
## มีจิตใจที่ต้องการสร้างให้ผู้อื่นประสบความสำเร็จ ##
ข้อนี้เป็น Mindset ของการทำเพื่อผู้อื่นก่อน แล้วตนจึงจะสำเร็จ
ถ้าผมถามคุณว่า ในตอนที่คุณเป็นตัวแทน คุณอยากได้ผู้จัดการแบบไหนดูแลคุณ?
ผู้บริหารตัวแทนที่ เมื่อถึงคราวต้องตัดสินใจอะไรที่ต้องเลือก ผลประโยชน์ของเขามาก่อนคุณเสมอ?
ผู้บริหารตัวแทนที่ เมื่อถึงคราวต้องตัดสินใจอะไรที่ต้องเลือก ผลประโยชน์คุณมาก่อนเขาเสมอ?
ผมเชื่อว่าแทบจะร้อยเปอร์เซนต์ จะต้องว่าอยากได้แบบข้อที่ 2
คำถามต่อมาก็คือ เมื่อคุณเป็นผู้บริหาร และไม่มีทางพบ Win-Win Deal คุณจะนึกถึงประโยชน์ใครก่อน ตัวแทนของคุณ หรือ ตัวคุณ?
ไม่ว่าคุณจะตอบอะไร นั่นคือ “เนื้อแท้” ของคุณ และมันจะปรากฏขึ้นเมื่อถึงสถานการณ์เหล่านั้น
ผมเชื่อเสมอว่า “เราส่งอะไรให้โลก โลกจะส่งสิ่งนั้นกลับมาหาเรา”
มันเป็นไปไม่ได้ที่คุณส่งความปรารถนาดีทั้งมวลของคุณให้เพื่อนมนุษย์ แล้วคุณจะได้ความมุ่งมาดร้ายกลับมา ทุกอย่างเป็นแรงดึงดูดกันและกัน
“หากคุณเป็นคนดี กาลเวลาจะพัดพาคนไม่ดีออกจากชีวิตคุณไป
และหากคุณไม่ใช่คนดี กาลเวลาก็จะพัดพา คนดี ออกจากชีวิตคุณไปในที่สุด เช่นกัน”
การทำงานไม่ใช่แค่เพียงหาเลี้ยงชีพ หากแต่เป็นการฝึกจิต ฝึกปฏิบัติธรรม
ผมไม่ได้พูดถึงธรรมะในศาสนาใด ผมพูดถึง “สัจธรรม” หรือ “ความจริง” ที่เราจะค้นพบในระหว่างการทำงาน คุณจะได้เรียนรู้ทั้งสองด้าน ด้านบวก และ ด้านลบ และในที่สุดคุณจะตระหนักถึง “คุณค่า” บางอย่าง สิ่งนั้นจะทำให้คุณอิ่มใจ ปลื้มปิติ แบบในสิ่งที่เงินซื้อหาให้คุณไม่ได้
ถ้า Mindset ของคุณเชื่อในเรื่องของ “การเป็นผู้ให้” จงอย่ากลัวที่จะขาดแคลน
และจะดึงดูด “คนที่ใช่” เขามาหาคุณในที่สุด
## มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่เป็นคนที่อยู่ในระดับท้อปของบริษัท##
ข้อนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญมากๆ ของผู้สำเร็จระดับโลก พวกเขามี “Burning Desire” หรือความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จ
ความปรารถนาอย่างแรงกล้านี่แหละ จะเป็นตัวขับเคลื่อนทุกๆ อย่าง มันทำให้คุณอยากตื่นเร็วๆ เพื่อมาทำงาน ทำให้คุณไม่อยากหลับ หากคุณเผลอตื่นขึ้นมา คุณจะคิดแต่เป้าหมายๆๆ และวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้คุณพิชิตเป้าหมายนั้น และบางครั้งอาจถึงระดับ “ลุ่มหลง” (ในทางดีนะครับ) ที่จะทำชิ้นงานนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เหมือนอย่างศิลปินที่รังสรรค์งานศิลป์ ผู้กำกับที่หลงไหลกับการกำกับภาพยนตร์ หรือนักกีฬาที่ไม่หยุดซ้อม พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อความเป็นเลิศ
หากคุณมีความรู้สึกเช่นนั้น ประจำใจ มีสติรู้ตัวเมื่อไรก็นึกถึงแต่เป้าหมายของคุณ คุณกำลังมาถูกทางครับ
การเป็นระดับ Top Three หรือ Top Ten ของบริษัทหรือของประเทศ หาใช่การแข่งขันกับผู้อื่นไม่ หากแต่เป็นการแข่งขันกับใจคุณเอง คุณกำลังแข่งขันกับอีกตัวตนหนึ่งของคุณ ซึ่งเขาพยายามสุดชีวิตที่จะไม่ให้คุณบรรลุเป้าหมาย
ตัวตนนั้นมักจะพูดกับคุณว่า
“ทำไม่ได้หรอก เราทำเต็มที่แล้วนะ เลิกดีกว่า”
“ตัวแทนคนนั้นเขาฐานตลาดดีกว่าเราเยอะ รู้จักคนรวยมากมาย เราไม่มีทางทำได้หรอก”
“ยังมีงานอื่นที่ง่ายกว่านี้ มัวทำงานนี้อยู่ทำไม มีแต่คนมองไม่ดี เลิกเหอะ”
“หา! ตัวแทนออฟเดอะเยียร์เนี่ยนะ ฉันทำไม่ได้หรอก มันยากเกินไป”
คุณยอมรึ????
ให้อีกตัวตนหนึ่งของคุณได้ชัยชนะไปแล้วใช้ชีวิตแบบที่คุณไม่เคยปรารถนาเลย!
นอกจากคุณจะมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าจริงๆ เท่านั้นจึงจะฝ่าด่านนี้ไปได้ แล้วขึ้นรับรางวัลชีวิต --“ชีวิตที่คุณเลือกได้”
## เป็นตัวแทนอย่างน้อย 1-2 ปี และมีลูกค้าขั้นต่ำ 150 ราย /ปี และพิชิตคุณวุฒิ MDRT ##
ทำไมต้องมีระยะเวลา?
ทำไมต้องมีจำนวนราย 150 ราย?
ทำไมต้อง MDRT?
เพราะทั้งหมดนี้คือ “ใบเบิกทาง” สู่ความสำเร็จของคุณ
คุณนึกภาพตามผมนะ
สมมติวันนี้มีผู้บริหารตัวแทน 2 คน ไปชวนคนเป็นตัวแทน
คนที่ 1 ไม่เคยบรรลุสิ่งใด ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ พูดจากตำรา พูดจากสิ่งที่อ่านมา
คนที่ 2 สมัยเป็นตัวแทน เป็นตัวแทนที่มีประสบการณ์การขาย มีลูกค้านับร้อยราย พิชิตคุณวุฒิท่องเที่ยวบริษัทและ ติด MDRT ทุกปี
ถามตรงๆ คุณอยากร่วมงานกับผู้บริหารคนไหน?
นี่คือกฏแห่งผู้นำที่เรียกว่า “Law of the Picture” ของ John Maxwell ปรมาจารย์ระดับโลกด้านการสอนความเป็นผู้นำ
จอห์นบอกว่า “ผู้ตามไม่ได้ฟังสิ่งที่ผู้นำพูด แต่เห็น(ภาพ)ในสิ่งที่ผู้นำเป็น”
ตัวแทนไม่สนใจว่าคุณจะพูดเก่งแค่ไหน เขาสนว่าคุณ “ทำได้ไหม” คุณเคยประสบความสำเร็จมาก่อนไหม
จึงเป็นที่มาของคำว่า “Actions speak louder than words.” การกระทำส่งเสียงดังกว่าคำพูด
ส่วนท่านที่อ่านบทความนี้ และเป็นผู้บริหารที่ไม่เคยพิชิตคุณวุฒิ ไม่มีจำนวนรายเป็นร้อยราย ก็ยังไม่สายครับ เราเริ่มใหม่ได้ ผมเองจะขายเองทุกปีแม้จะขึ้นผู้บริหารแล้วก็ตาม และเบี้ยประกันที่ผมขาย ก็เป็นอันดับหนึ่งของทีมงาน เมื่อเป็นเช่นนี้ คำพูดและการสอนจึงทรงพลังเสมอ เพราะออกจากปากของคนที่มีผลลัพธ์แล้วนั่นเอง
## มีตัวแทนที่คุณชักชวนตอนเป็นตัวแทนไม่ต่ำกว่า 15 คน ##
ทำไมต้องมีตัวแทน 15 คน ก่อนขึ้นผู้บริหาร?
1.เพราะมันคือ “เสาเข็ม” ที่ลงหลักปักฐานในการสร้างทีมงานของคุณ
ตัวแทน 15 คนนี้ คุณรีครูทเองกับมือ สอนงานเองกับมือ ประกบขายจนพวกเขาเข้าใจ “ระบบ” ของคุณ
ในเวลาต่อมา สิ่งที่คุณต้องทำในฐานะผู้บริหารก็คือ เช็คอย่างถี่ถ้วนว่า พวกเขาส่งต่อมันได้ 100% หรือไม่
2.เพราะมันคือการสร้าง “Momentum” แรงเหวี่ยงในองค์กรของคุณ ถ้าตัวแทนของคุณมี Mindset ถูกต้อง มี Skill Sets ถูกต้อง และลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่เกิดขึ้นในองค์กรของคุณคือ “โมเมนตั้ม” แรงเหวี่ยงที่จะค่อยๆ เติบโตแบบทวีคูณขึ้น เป็น “Exponential Growth” เหมือนคุณโยนหินลงน้ำเพียงก้อนเดียว แต่วงน้ำกระจายออกไปไม่สิ้นสุด
3.เป็นขนบธรรมเนียมที่ชัดเจนในทีมของคุณว่า ผู้จะขึ้นผู้บริหารจะต้องมีตัวแทน 15 คนเพื่อความมั่นคงแข็งแรงของทีมเขา และผลที่ตามมาองค์กรของคุณเองก็จะเติบโตแบบแข็งแรง หากในเวลาต่อมาตัวแทนทั้ง 15 คนของคุณขึ้นเป็นผู้บริหาร เขาก็จะมีตัวแทน 15 คนในองค์กร เท่ากับคุณมีตัวแทน 15 + (15 x 15) = 240 คน หากคิดว่าสำเร็จสักครึ่งหนึ่งก็ 120 คน พวกเขาก็จะสร้างโมเมนตั้มต่อไป
เห็นไหมครับเมื่อมองย้อนกลับไป ความสำเร็จทั้งหมดทั้งมวล เริ่มต้นที่ “คุณ”
มันเริ่มตั้งแต่คุณคิดและ ตัดสินใจ และลงมือทำ
คุณคือต้นเหตุแห่งความสำเร็จทั้งปวงในชีวิตของคุณ
มันคงจะเป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ ถ้าเอาแต่คิด แต่ ไม่ลงมือทำ
โอกาส จะกลายเป็น อากาศ
แค่จำไว้ว่า
“การลงมือทำเป็น บิดา แห่งความสำเร็จทั้งปวง”
========================
วันนี้ยาวพอสมควร แต่ผมคิดว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณ หากใครอ่านจบและพบว่ามันมีประโยชน์กับคุณ ดีกับคุณ บอกผมสักนิดด้วยการคอมเม้นท์ ผมจะได้รู้ว่ามันมีประโยชน์จริงๆ ผมจะเขียนต่อไปครับ
คอมเม้นท์ว่า “มีประโยชน์”
เจฟ ชัยยะพัส
ดู 728, ตอบ 2